Web Analytics Made Easy - Statcounter
Car4Sure - ประเด็นร้อน..ประเด็นฮิต...กับ อีโค่คาร์เฟส 2

รอบรู้เรื่องรถมือสอง

ประเด็นร้อน..ประเด็นฮิต...กับ อีโค่คาร์เฟส 2

2019-12-10
...Car4Sure @ Knowledge...

..ไขข้อสงสัย..เปรียบเทียบ Eco Car เฟส1 และ เฟส2 ต่างกันอย่างไร?

 

#Eco Car : โปรดักส์ แชมเปี้ยนตัวที่สอง..

 

ในปี พ.ศ. 2550 คณะกรรมการบีโอไอ (BOI) มีนโยบายส่งเสริมให้เกิดโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือที่เราทราบกันดีว่า“อีโค่คาร์ (Eco Car)”เป็นครั้งแรก ท้ายที่สุดก็มีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัยนั้นเป็นที่สำเร็จ เริ่มมีผลบังคับใช้ใน ปี 2552

 

การกำหนดคุณสมบัติของรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลหรืออีโค่คาร์ ยังส่งผลให้ผู้บริโภค สามารถเข้าถึงรถยนต์ที่มีความโดดเด่นในด้านการประหยัดพลังงาน ปล่อยมลพิษน้อยลง ซึ่งข้อกำหนดและปัจจัยเหล่านี้ได้กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาในด้านคุณสมบัติ คุณภาพของตัวรถมากขึ้น

 

จนเวลาล่วงเลยมาถึงปี 2558 เพื่อเป็นการต่อยอดโครงการนี้จึงเป็นที่มาของเฟสต่อไป นั่นคือ อีโค่คาร์ เฟส2 นั่นเอง เริ่มพิจารณาเฟส 2 ในเดือนสิงหาคม 2556 และมีผลบังคับใช้ได้ในปี 2558

 

............................

 

ซึ่งเป้าหมายหลักๆของโครงการเฟสที่ 2 มี 3 หัวข้อใหญ่ๆดังนี้.

 

1. ก่อให้เกิดการลงทุนคลัสเตอร์ยานยนต์ขนาดใหญ่

เกิดการต่อยอดช่วยให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถ

 

2. ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงรถยนต์ที่มีมาตรฐานสูง

ทั้งด้านความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน และมีราคาที่เหมาะสมไม่สูงเกินไป

 

3. มีส่วนช่วยรองรับการขยายตัวของสังคมเมือง

และช่วยลดผลกระทบจากการใช้รถยนต์ ทั้งการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ

 

 

เพราะฉะนั้นแล้ว อีโค่คาร์ (Eco car) จึงเป็นรถที่เน้นในด้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือย่อมาจาก “Ecology Car” ไม่ใช่รถเล็กที่เรียกว่ารถกระป๋อง ประหยัดลดต้นทุน หรือราคาถูก Economy Car อย่างที่หลายคนเข้าใจผิดอยู่ แต่เป็นรถเล็กประหยัดพลังงานมาตราฐานสากลที่รัฐฯกำหนดด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และความปลอดภัยในตัวรถได้อย่างชัดเจน..

 

......................................

 

หลายๆคนยังสงสัยในความต่างของ Eco car เฟสที่ 1 กับ เฟสที่ 2 ว่ามีความเหมือนหรือต่างกันตรงไหนบ้าง ? มีข้อกำหนดเหมือนกันไหม ?

Eco car เฟสที่ 2 นั้น จะมีความเข้มงวด และหินมากขึ้น มีการขยายขนาดความจุเครื่องยนต์ ในส่วนของเฟสที่ 2 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 100 cc. และ ในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซล จากเดิม 1,400 cc. เป็น 1,500 cc.

 

นอกจากนั้นจะเป็นการเพิ่มความยากมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ทั้งในด้านมาตรฐานมลพิษ , ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่จะต้องประหยัดกว่ารถอีโค่คาร์เฟสที่ 1รวมถึงไฮไลต์เด็ดต่อไปนี้ นั่นก็คือ

 

"ความปลอดภัย Active Safety" หรือที่เข้าใจกันได้โดยง่ายคือ อุปกรณ์ป้องกันและลดความเสี่ยงก่อนการเกิดอุบัติเหตุ

มีข้อกำหนดอยู่ 2 อย่างด้วยกัน ได้แก่

1. ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค หรือ ABS ( Anti-lock Braking System) และ

2. ระบบควบคุมการทรงตัว หรือ ESC ( Electronic Stability Control) หรืออาจจะมีชื่อเรียกอื่นๆในแต่ละยี่ห้อเช่น ESP, VSC, VSA, VDC เป็นต้น

 

ซึ่งทั้งหมดนี้ในอีโค่คาร์เฟสที่ 1 นั้นไม่ได้มีข้อกำหนดในส่วนนี้ นี่จะทำให้รถทุกคัน ทุกรุ่นย่อย ทุกราคาที่เข้าร่วมโครงการอีโค่คาร์เฟสที่ 2 จะต้องมีไม่ว่าจะรุ่นถูกสุดหรือรุ่นท๊อปสุดก็ตาม.

ปี 2019 เดือนธันวาคม นิสสัน ได้เปิดตัว อีโค่คาร์ เฟส2 ซึ่งมีตัวชูโรงอย่าง NISSAN ALMERA 1.0 Turbo ออกมาแข่งกับอีกค่ายอย่าง HONDA CITY 1.0 Turbo

......................................

นอกเหนือจากคุณสมบัติทางด้านตัวรถแล้ว เงื่อนไขในด้านการลงทุนก็เพิ่มข้อกำหนดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น 1,500 ล้านบาทจากเฟสที่ 1 กำหนดไว้เพียง 5,000 ล้านบาท ก็เพิ่มเป็น 6,500 ล้านบาท (ยกเว้นให้กับผู้ที่เคยร่วมโครงการแล้วในเฟสที่ 1 ให้สามารถลงทุนเท่าเดิมได้)  

 อีกทั้งปริมาณการผลิตก็โหดมากขึ้น ร่นระยะเวลาเข้ามาอีก 1 ปี เพื่อผลิตให้ได้อย่างน้อย 100,000 คันต่อปี ตั้งแต่ปีที่ 4 รวมทั้งขายในประเทศและส่งออก

 

โดยบริษัทรถยนต์ที่เข้าร่วมในเฟสที่ 2 นั้นมีด้วยกันอยู่ 10 บริษัท ได้แก่

5 รายเดิมที่เคยเข้าร่วมในเฟสที่ 1 คือ Nissan, Honda, Suzuki, MitsubishiและToyota และมีบริษัทรถยนต์ที่เข้าร่วมเพิ่มขึ้นด้วยกันอีก 5 บริษัท ได้แก่ Ford, Mazda, MG, Volkswagen และ Chevrolet ซึ่ง Chevrolet พึ่งประกาศถอนตัวไปก่อนหน้านี้ช่วงประมาณเดือนมีนาคม ด้วยสภาพทางการเงินของบริษัทที่ไม่ค่อยจะสู้ดีซักเท่าไหร่ในการดำเนินธุรกิจจากทั่วทั้งโลก.

( ถึงแม้โครงการอีโค่คาร์เฟสที่ 2 นั้นจะเริ่มต้นขึ้นแล้วก็ตาม แต่ Suzuki Ciaz (ซูซูกิ เซียส) ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อ 8 กรกฎาคมนี้ ก็ยังคงเป็นรถจากโครงการ Eco Car เฟส 1 อยู่. )

 

เพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นว่า รถยนต์คันไหนบ้างที่เข้าร่วมโครงการอีโค่คาร์กันบ้าง

ไล่เรียงกันไปตามระยะเวลาที่เปิดตัวก่อนหลังของแต่ละคัน โดยที่เฟสที่ 1 รุ่นแรกในโครงการอีโค่คาร์ที่เปิดตัวคือ Nissan March

 

ส่วนในเฟสที่ 2 รุ่นแรกที่เปิดตัวคือ Mazda2 Diesel ทั้งตัวถัง 4 ประตู ซีดาน และตัวถัง 5 ประตู แฮทซ์แบ็ค โดยจะเห็นความเป็นไปได้ว่าในอนาคต ค่ายรถยนต์ต่างๆจะนำเอารถ B-Segment ในค่ายของตน มาเข้าร่วมโครงการโดยการใส่เครื่องยนต์ที่มีความจุเล็กลงกว่าเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนด และเป็นไปตามเทรนด์ของตลาดโลกที่เรียกว่าการ Down Sizing

 

ซึ่งในอนาคตมีความน่าจะเป็นที่ว่า New Model ของตลาด B-Segment ในบ้านเราจะเข้าโครงการ Eco car เฟสที่ 2 ก็เป็นได้ เราอาจจะได้เห็น All new Honda Jazzใส่เครื่อง 1.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ แต่มาขายในราคาเดิมหรือถูกลงกว่าเดิมก็ได้ เนื่องจากมีผลประโยชน์ ของการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถกลุ่มนี้รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ในปีหน้า พ.ศ. 2559.

 

..นี่คือสาระน่ารู้กับประเด็นสุดฮอต...โปรเจคใหญ่ของภาครัฐฯ..ใน อีโคคาร์เฟส 2 Eco Car Phase2..

 

...Car4Sure @ Knowledge...