วันนี้มีสื่อมวลชนสายยานยนต์ อย่างคุณภาคภูมิ ภู่กาญจน์ (คุณปอนด์) มาขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ยานยนต์โลก รวมถึงสภาพตลาดรถยนต์ทั้งรถใหม่และรถมือสองในประเทศไทยช่วงนี้ ทำให้ผมต้องชวนท่านประธานชมรมรถสวยกาญจนา คุณสัญญา เหมพรรณไพเราะ มาร่วมวงการสัมภาษณ์ครั้งนี้ด้วย ซึ่งมีคำถามมากมายที่เชื่อว่าประชาชนทั่วไปน่าจะสงสัยและอยากรู้ ซึ่งบทสัมภาษณ์ที่นำมาให้อ่านวันนี้เป็นเพียงการสรุปเนื้อหามาบางส่วนเท่านั้น ซึ่งหากใครอยากดูคลิปวิดีโอฉบับเต็ม ก็เข้าไปกดติดตามกันได้ที่ช่อง Youtube ของ Car4sure หรือ กดที่ลิ้งค์นี้ 

Game Change โลกยานยนต์ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ถึงเวลาเปลี่ยนขั้วอำนาจ จริงหรือ?

มุมมองของทั้งสองท่าน เกี่ยวกับหัวข้อนี้ มีความเห็นอย่างไรบ้าง?

(หมี) มองว่าโลกยานยนต์กำลังมีความเปลี่ยนแปลงแน่นอน แต่ยังเป็นความเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในระดับผู้บริโภค ที่กำลังแสวงหาทางเลือกใหม่ที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องความประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือน จากที่ต้องเติมน้ำมันหลายพันบาท อาจลดลงเหลือไม่เกิน2พันต่อเดือน รวมถึงลูกค้าส่วนใหญ่ที่ได้ซื้อEV เป็นกลุุ่มที่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ก็มีความต้องการได้ทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบในไม่ช้า

(นัท) มองว่าเป็นวิวัฒนาการของโลกยานยนต์ ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเปรียบเทียบกับอดีตที่โลกเคยมีเครื่องยนต์หัวฉีดที่มาแทนที่คาบูเรเตอร์ หรือเครื่องดีเซลแบบคอนมอนเรล ที่มาแทนดีเซลแบบดั้งเดิม ซึ่งมองว่าความเปลี่ยนแปลงแต่ละยุค ย่อมมีช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่าน อาจใช้เวลา5-10ปี คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบกระทันหัน เฉพาะฉะนั้นก็เป็นสิ่งต้องเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

-------------------------------------------

คำแนะนำเกี่ยวกับการตัดสินใจของผู้บริโภคในการซื้อรถยนต์ ว่าถึงเวลาของ EV หรือยัง

(หมี) ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานในชีวิตประจำวัน ถ้าเป็นการใช้งานแบบไปกลับเช้าเย็น ก็สามารถลองใช้EVได้ เพียงแต่ว่าหากจะใช้เป็นรถยนต์หลักที่ใช้เดินทางไปสถานที่ไกลๆ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการวางแผนการเดินทาง เพราะยังมีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง และจุดแวะชาร์จ ทำให้การเดินทางอาจไม่ได้สะดวกเหมือนรถยนต์น้ำมัน

(นัท) ณ ปัจจุบันยังมองว่าการใช้งานรถEVเป็นรถยนต์เพียงคันเดียวในบ้าน อาจจะยังมีความเสี่ยง แนะนำให้ซื้อเป็นคันที่2หรือ3 โดยยังมีรถยนต์น้ำมันยืนพื้นอยู่ในบ้านอย่างน้อย1คัน จะดีกว่า เพราะยังมีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และจุดแวะชาร์จ รวมถึงเทคโนโลยียังใหม่ อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาจากใช้งาน และคนที่จะเริ่มใช้งาน EV ต้องมีความพร้อมด้านการเงิน ชนิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องราคาขายต่อ เพราะมีความเสี่ยงที่จะขายไม่ได้ราคา ในอนาคตเพราะเทคโลโยีเปลี่ยนเร็วมาก

-------------------------------------------

สูตรการคำนวณราคาซื้อขายรถมือสอง ณ ปัจจุบัน มีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร

(หมี) ในอดีตอาจจะใช้สูตรโดยคร่าวๆได้ เช่น ขาดทุนปีแรก30% และลดลงปีต่อๆไป ปีละ10% แต่ปัจจุบันไม่สามารถใช้สูตรแบบเดิมได้แล้ว เพราะวันนี้มีภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง ทั้งสภาพเศรษฐกิจ , ปริมาณรถโดนยึด , ปริมาณรถยนต์ใหม่ ทำให้การคำนวณราคาค่อนข้างผันผวน และไม่มีสูตรการคำนวณที่ชัดเจนอีกต่อไป

(นัท) มองว่าจริงๆแล้ว ในอดีตก็ไม่เคยมีสูตรอะไรที่แน่นอนอยู่แล้ว ที่ผ่านมาอาจเป็นเพียงความเชื่อ หรือแนวคิดเบื้องต้นในการคำนวณที่สามารถใช้ได้กับอดีต เนื่องจากในอดีต ภาวะการตลาดยังมีความเสถียร และตลาดกำลังขยายตัว และไม่ได้ผันผวนมากเหมือนปัจจุบัน และอาจจะเคยใช้สูตรดังกล่าวได้เฉพาะกำลังกลุ่มรถมือสองที่อายุไม่เกิน1ปี ซึ่งในการคำนวณราคาปัจจุบันต้องใช้วิธีตรวจสอบราคากับสื่อโฆษณาแบบรายวัน จะมีความใกล้เคียงมากกว่า

------------------------------------------

คาดการณ์เกี่ยวกับราคารถมือสองของรถEV ในอนาคต จะเป็นอย่างไร

(หมี) ยังเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาราคา เพราะวันนี้รถEV ยังเข้ามาในตลาดมือสองไม่เยอะ และยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นสินค้าส่วนเกินของตลาด เนื่องมาจากเทคโลโยีใหม่ที่ประสิทธิภาพสูงกว่า ออกมาแทนที่EVยุคแรก  แต่ ณ วันนี้ ด้วยความที่อายุรถEVยังใหม่ ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระยะการรับประกัน WARRANTY ของศูนย์ ทำให้ปัญหายังไม่เกิด แต่ถ้าอายุ7-8ปี ใกล้ๆหมดวารันตี  อาจจะเกิดภาวะสินค้าล้นตลาดได้ เนื่องจากลูกค้าที่จะซื้อมือสอง อาจจะไม่กล้าซื้อเนื่องจากแบตเตอรี่มีราคาที่สูงมาก และเป็นต้นทุนเกือบครึ่งนึงของราคารถ

(นัท) มองว่านี่คือปัญหาที่ซ่อนอยู่ และรอวันปะทุเหมือนระเบิดเวลา ที่ภาครัฐยังมองไม่เห็น ดังนั้นจึงอยากฝากไปถึงภาครัฐให้มองเรื่องนี้ให้ครบทุกมิติ มองให้รอบด้าน นอกเหนือจากการผลักดันนโยบายให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้EV ก็จำเป็นต้องวางแผนหาทางออกในเรื่องการกำจัดซากรถเก่าด้วย โดยเฉพาะEVที่สุดท้าย อาจจะกลายเป็นขยะมลพิษ หากเกิดภาวะสินค้าล้นตลาด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับEVยุคบุกเบิกที่เชื่อว่าน่าจะไม่มีราคา และไม่สามารถหาคนซื้อต่อได้ หากเกิดเทคโนโลยีใหม่แบบก้าวกระโดด เช่น ชาร์จได้เร็วขึ้นและวิ่งได้ไกลขึ้น

------------------------------------------

เห็นด้วยกับการเปลี่ยนขั้วอำนาจยานยนต์โลกแค่ไหน

(หมี) มองว่าเป็นเรื่องของการแข่งขันและแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคนไทยที่ต้องการซื้อรถใหม่ แต่ถ้าถามว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกขั้วตอนนี้เลยไหม อาจคิดว่ายังเร็วไปที่จะตอบ และสุดท้ายคิดว่าทั้งสองขั้วอำนาจ และสองเทคโนโลยี จะยังคงมีอยู่แบบคู่ขนานกันไป ไม่คิดว่าจะมีขั้วใดขั้วหนึ่งกินรวบแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เนื่องจากแกนหลักของเศรษฐกิจไทยยังจำเป็นต้องพึ่งพาการลงทุนจากทั้งสองขั้วอำนาจ โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในไทยทั้งการผลิตรถ และซัพพลายเออร์ด้านอะไหล่ มาอย่างยาวนาน

(นัท) มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจ แต่ยังต้องรอการพิสูจน์อีกร่วม10ปี กว่าจะเห็นภาพทุกอย่างที่ชัดเจน เพราะกว่าที่รถยนต์ญี่ปุ่นจะก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจด้านยานยนต์โลก ก็ผ่านก็พิสูจน์ตัวเองมามากกว่า30ปี ดังนั้นขั้วอำนาจยังต้องรอพิสูจน์ตัวเองในระยะยาว นอกเหนือจากเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ยังมีเรื่องของศูนย์บริการ , การบริหารจัดการอะไหล่ , ความเสถียรของการใช้งานในระยะยาว

------------------------------------------

อยากฝากอะไรถึงท่านผู้ชม

(หมี) อยากให้วางแผนเลือกซื้ออย่างรอบคอบและใช้เหตุผล โดยศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้าน ไม่ต้องซื้อตามกระแส เพราะวันนี้เป็นเพิ่งแค่จุดเริ่มต้นของยานยนต์ยุคใหม่ ที่ยังมีอะไรใหม่ๆอีกหลายอย่าง ที่ต้องรอการค้นคว้าวิจัย และเลือกรถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเราจะดีกว่า

(นัท) การวางนโยบายผลักดันEVเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากฝากถึงภาครัฐว่าต้องคิดให้รอบด้าน และมองเรื่องนี้ให้ครบทุกมิติ โดยส่วนตัวยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการกำจัดซากรถเก่า ที่วันนี้ยังไม่นโยบายหรือแผนรองรับที่เป็นรูปธรรม และมองว่าอาจเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา และไม่อยากให้เร่งเร้านโยบายอะไรให้เร็วเกินไป จนกระทบต่อตลาดและภาคธุรกิจ โดยมองว่าเรื่องEVเป็นอะไรที่ใหม่มากและคนไทยยังพอมีเวลาให้เรียนรู้  จึงอยากให้ความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปโดยธรรมชาติมากกว่า

-------------------------------------

ขอขอบคุณสำนักข่าวเพจข่าวรถ Khaorod ที่ให้ความสนใจและนำเสนอข่าวสารด้านรถยนต์มือสองของเว็บไซต์ Car4sure